สินค้า รุ่นยาง โปรโมชั่น แกลเลอรี่ ข่าวสาร/ความรู้ ค้นหาสาขา เกี่ยวกับเรา
เลือกยางให้ขนาดตรงก็พอ ไม่ต้องสนใจ ความเข้าใจผิดที่อันตรายเงียบ ๆ

เลือกยางให้ขนาดตรงก็พอ ไม่ต้องสนใจ ความเข้าใจผิดที่อันตรายเงียบ ๆ

เวลาจะเปลี่ยนยาง หลายคนโฟกัสแค่ “ขนาด” เช่น 215/55R17 แล้วคิดว่าพอแล้ว ที่เหลืออย่าง ดัชนีรับน้ำหนัก (Load Index: LI) และ ดัชนีความเร็ว (Speed Rating: SR) ไม่ได้สำคัญมาก ความจริงคือสองค่านี้คือ “รั้วความปลอดภัย” ของยาง หากเลือก ต่ำกว่าสเปกรถ แม้วิ่งช้าในเมือง ก็มีโอกาสเจอ ยางร้อนผิดปกติ บวม แตก เร็วกว่าปกติ ระยะเบรกยาวขึ้น และประกันอาจไม่ครอบคลุม ได้เลยนะครับ 🛞⚠️

Load Index/Speed Rating คืออะไร และทำไมถึงต้อง “เท่ากับหรือสูงกว่า” ของเดิม?

  • Load Index (LI): ตัวเลขที่ระบุ “น้ำหนักสูงสุด/เส้น” ที่ยางรับได้เมื่ออัดลมตามมาตรฐาน เช่น LI 94 ≈ 670 กก./เส้น (ค่าจริงดูจากตารางมาตรฐาน) รถหนึ่งคันลงบน 4 เส้น รวมสัมภาระ–ผู้โดยสารแล้ว ถ้าเลือก LI ต่ำกว่าคู่มือรถ ยางจะ รับน้ำหนักต่อเส้นเกินพิกัด เกิดความร้อนสะสม เสี่ยงบวม/แตก โดยเฉพาะ SUV/MPV/กระบะ และรถที่มี อุปกรณ์แต่ง/บรรทุกบ่อย

  • Speed Rating (SR): ตัวอักษรที่บอก “ความเร็วสูงสุดที่ยางรับได้ต่อเนื่องภายใต้มาตรฐานทดสอบ” เช่น H (210 กม./ชม.), V (240), W (270) เป็นต้น แม้คุณจะไม่วิ่งถึงตัวเลขนี้ แต่ SR ยังสะท้อน ความทนความร้อน/ความแข็งแรงของโครงสร้างยาง เวลาใช้จริงบนทางด่วนร้อน ๆ ยาว ๆ ถ้า SR ต่ำกว่าสเปก โครงสร้างจะ เหนื่อยและร้อน ง่ายกว่าปกติ

กฎทอง: เปลี่ยนยางให้ “LI และ SR ไม่น้อยกว่า” ที่ผู้ผลิตรถกำหนด (จะสูงกว่าได้ แต่ “อย่าต่ำกว่า”)

อันตรายที่มองไม่เห็น เมื่อเลือก LI/SR ต่ำกว่าสเปก

  • บวม–แตกจากความร้อนสะสม: เมืองไทยร้อนจัด พื้นทางยกระดับร้อนจี๋ บวกกับน้ำหนักรถ/สัมภาระ ถ้า LI ต่ำ โครงสร้างภายในจะทำงานหนักเกินขีดจำกัด

  • ระยะเบรก/การควบคุมแย่ลง: โครงสร้างที่ “บาง/อ่อนกว่า” (เพราะ SR ต่ำ) ทำให้บล็อกดอกยุบ-คืนรูปมากขึ้น เบรกแรงหรือเลี้ยวเร็ว ๆ จะรู้สึกย้วย ไม่มั่นใจ

  • สึกผิดปกติ: ยางที่รับน้ำหนักเกินพิกัดมัก “กินไหล่” หรือ “ขึ้นบันได” เร็ว เสียงหอนตามมา ต้องเปลี่ยนเร็ว = จ่ายแพงกว่าในระยะยาว

  • ประกัน/การรับประกันยางอาจไม่คุ้มครอง: อุบัติเหตุ/ความเสียหายจากการใช้ “ผิดสเปก” มีสิทธิ์ถูกปฏิเสธการเคลม

เคสจริงในไทยที่เจอบ่อย

  • SUV 7 ที่นั่ง: เปลี่ยนไปใช้ยาง LI ต่ำกว่าคู่มือ เพราะเห็นว่าขนาดเท่ากันและราคาดี พอวิ่งต่างจังหวัดเต็มคัน+สัมภาระ ความร้อนขึ้นไว เกิด “บวมไข่ปลา” ที่แก้มยางหลังทริปแรก ๆ

  • รถยุโรปรุ่นกลาง–ใหญ่: เดิมติด SR V/W เพื่อรองรับทางด่วนความเร็วคงที่ เปลี่ยนเป็น SR T/H เพราะราคาถูกกว่า—ช่วงบ่ายแดดจัด พวงมาลัยหลวม/เสียงดัง และยางสึกบันไดเร็ว

  • EV/Hybrid: น้ำหนักรถสูงกว่ารถน้ำมันรุ่นเทียบเคียง ถ้าเลือก LI เท่ารถน้ำมันโดยไม่ดูคู่มือ EV จะทำให้ยาง ทำงานหนัก และกินไว (EV ยังต้องการยางต้านทานการหมุนต่ำด้วย)

เลือกยังไงให้ “ถูกหลัก–ถูกใบประกัน–ถูกใจ”

  1. เริ่มที่สติ๊กเกอร์ประตู/คู่มือรถ: จด ขนาด + LI + SR ต้นฉบับให้ครบ เช่น 215/55R17 94V

  2. เลือก “เท่ากับหรือสูงกว่า”: LI/SR สามารถ “อัปเกรด” ได้เพื่อรองรับงานหนัก/ทางไกล แต่ต้องคำนึงถึงฟีลลิ่ง (SR สูงมักแก้มแข็งขึ้นเล็กน้อย)

  3. อย่าลด LI/SR เพื่อราคา: ส่วนต่างหลักร้อย–พันในวันนี้ อาจกลายเป็น “ค่าเสียหายหลายหมื่น” เมื่อเกิดบวม/แตก/สึกไว

  4. งานบรรทุก/เดินทางไกล: ถ้าวิ่งต่างจังหวัดบ่อย/บรรทุกหนัก ให้พิจารณา LI สูงขึ้น 1–2 สเต็ป และตั้งแรงดันตาม “ค่าบรรทุกหนัก” ที่ผู้ผลิตรถแนะนำ

  5. รถที่ปรับขนาด/ออฟเซ็ต: หากอัปไซซ์/ลดซีรีส์ ให้ รักษาเส้นรอบวงใกล้เดิม และเลือก LI/SR ไม่ต่ำกว่าเดิม เสมอ

  6. EV/Hybrid: มองรุ่นที่มีสัญลักษณ์/คำเคลมรองรับแรงบิด–น้ำหนัก EV โดยเฉพาะ (แต่ LI/SR ยังคงต้องไม่ต่ำกว่าเดิม)

Q&A ที่มักสับสน 🤔

  • Q: ผมไม่เคยวิ่งเกิน 120 เลือก SR ต่ำลงได้ไหม?
    A: ไม่แนะนำ เพราะ SR ไม่ได้บอกแค่ “ความเร็วปลาย” แต่ยังหมายถึง ความทนความร้อนและความแข็งแรงของโครงสร้าง ในการวิ่งต่อเนื่องอุณหภูมิสูง

  • Q: เพิ่ม LI/SR สูงขึ้นเสมอดีไหม?
    A: ดีในแง่ความทน แต่ ฟีลลิ่งอาจแข็งขึ้น/เสียงต่าง ควรเลือกยางที่บุคลิกตรงการใช้งาน (ทัวริง/สปอร์ต) ไม่ใช่ไล่ตัวเลขสุดโต่ง

  • Q: ขนาดเท่ากันเป๊ะ ต่างแค่ LI/SR—ติดตั้งได้ไหม?
    A: ได้ถ้า LI/SR ไม่น้อยกว่าเดิม และรับกับบุคลิก/ความนุ่มแข็งของรุ่นนั้น ๆ

  • Q: ถ้าจำเป็นต้องลด LI ลง 1 ขั้น เพราะของขาด?
    A: เลี่ยง ดีกว่า รอของหรือเปลี่ยนรุ่นที่ LI/SR ตรงสเปก ความปลอดภัยและความคุ้มค่าในระยะยาวสำคัญกว่า

เช็กลิสต์ 60 วินาที ก่อนจ่ายเงิน/เปลี่ยนยาง 📝

  • ✅ ถ่ายรูปสติ๊กเกอร์ประตู: ขนาด + LI + SR

  • ✅ รุ่นที่ดูไว้ LI/SR ไม่น้อยกว่า ของเดิม

  • ✅ ใช้งานจริงของคุณ: เมือง/ทางไกล/บรรทุก/ฝนบ่อย → เลือกคาแรกเตอร์ยางให้ตรง และเตรียม แรงดันตามสเปก

  • ✅ ถามใบรับประกันและรอบบริการ: สลับยาง/ตั้งศูนย์/ถ่วงล้อ

  • ✅ หลังติดตั้ง ทดสอบวิ่ง 10–15 กม. ฟังเสียง–ดูความนิ่ง และ เช็กแรงดัน “ตอนยางเย็น” อีกครั้ง

 

สรุปให้จำง่าย

การเลือกยาง “ขนาดตรง” อย่างเดียว ไม่พอ — คุณต้องมั่นใจว่า Load Index และ Speed Rating ไม่น้อยกว่าสเปกรถ เพื่อให้ยางรับน้ำหนักและความร้อนได้ตามที่ผู้ผลิตออกแบบไว้ เมื่อเลือกถูกตั้งแต่ต้น บวกกับ แรงดันตามสติ๊กเกอร์รถ, ตั้งศูนย์–ถ่วงล้อ, สลับยางตามระยะ คุณจะได้ทั้ง ความปลอดภัย ความมั่นใจ และความคุ้มค่า ในทุกกิโลเมตรครับ ✅

ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NITTO ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nittotire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nittotire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nittotire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nittotire.in.th/news/list

สินค้าและบริการ
ยางรถยนต์
โปรโมชั่น
แกลเลอรี่
บทความ
วิดีโอความรู้
ข่าวสาร
ค้นหาสาขา
เกี่ยวกับเรา
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย
ลงทะเบียนรับประกันยาง
ตรวจสอบการรับประกัน
นโยบายการรับประกัน
ติดต่อเรา

Copyright © 2024 NITTO TIRES สงวนสิทธิ์ทุกประการ

|

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

|

นโยบายความเป็นส่วนตัว

|

นโยบายการใช้คุกกี้

สินค้าและบริการ
ยางรถยนต์
โปรโมชั่น
แกลเลอรี่
บทความ
วิดีโอความรู้
ข่าวสาร
ค้นหาสาขา
เกี่ยวกับเรา
สนใจเป็นตัวแทนจำหน่าย
ลงทะเบียนรับประกันยาง
ตรวจสอบการรับประกัน
นโยบายการรับประกัน
ติดต่อเรา

Copyright © 2024 NITTO TIRES สงวนสิทธิ์ทุกประการ

|

ข้อกำหนดและเงื่อนไข

|

นโยบายความเป็นส่วนตัว

|

นโยบายการใช้คุกกี้