น้ำท่วมขังมาแบบไม่ทันตั้งตัว—บางครั้งก็หลบไม่ได้จริง ๆ สิ่งสำคัญคือ “ผ่านไปให้ปลอดภัย” แล้วดูแล ยางรถยนต์ ให้กลับมาพร้อมใช้งานเหมือนเดิม บทความนี้สรุปขั้นตอนก่อน–ระหว่าง–หลังลุยน้ำ แบบทำตามได้ทันที ไม่ต้องอาศัยอุปกรณ์พิเศษครับ
ก่อนลุย: ตัดสินใจให้ถูกตั้งแต่แรก
ถ้าระดับน้ำสูงเกินครึ่งล้อ แนะนำให้หาทางเลี่ยงทันที แต่ถ้าต้องผ่านจริง ๆ ให้ลดน้ำหนักบรรทุกลงบ้าง ปิดระบบที่ไม่จำเป็น เปิดไฟฉุกเฉิน เว้นระยะกับรถคันหน้า และ “กะไลน์” ให้ล้ออยู่บนทางที่มีร่องยางของรถคันก่อนหน้า จะช่วยให้หน้ายางเจอน้ำปั่นย้อนน้อยลง 👍
ระหว่างลุย: คันเร่งนิ่ง ๆ ความเร็วคงที่
อย่าเปลี่ยนเลนฉับพลัน อย่าเบรกหนัก และอย่าเร่งรอบสูง ให้คุมความเร็วคงที่แบบนุ่มมือ พวงมาลัยตรง–ค่อย ๆ ประคอง หากรู้สึกล้อหน้า “ลอย” หรือมีอาการลื่น ให้ยกคันเร่งเบา ๆ แล้วรอให้ยางกลับมาจับพื้นถนนอีกครั้งก่อนค่อยเพิ่มความเร็วใหม่ หลีกเลี่ยงการหยุดนิ่งกลางแอ่งน้ำ เพราะแรงดันน้ำอาจดันเข้ารอบล้อและชิ้นส่วนต่าง ๆ ได้ง่าย
หลังลุย: เช็กรอบคันทันทีที่พ้นน้ำ
จอดในที่ปลอดภัย กวาดตาดูดอกยางและแก้มยาง หาหิน เศษแก้ว หรือลวดลายแปลก ๆ ที่ติดเข้ามา ตรวจว่ามี “บวม แตก ร้าว” หรือไม่ จากนั้นค่อย ๆ เบรกเบา ๆ ให้ผ้าเบรกแห้ง (ถ้าปลอดภัย) แล้วฟังเสียงผิดปกติ เช่น “ตุบ–ตุบ” ตามรอบล้อหรือหอนผิดจังหวะ—ถ้ามี ให้เข้าศูนย์ตรวจทันที 🔎
ล้างคราบโคลน–ทราย ให้หมดจากดอกยาง
โคลนทรายที่ฝังแน่นทำให้ดอกยางรีดน้ำไม่ดีและสึกเป็นหย่อม ๆ ได้ ใช้น้ำฉีดล้างดอกยางให้สะอาด (ระวังอย่าฉีดน้ำแรงจ่อซีล/ข้อต่อใกล้ ๆ เกินไป) จากนั้นเช็กลมตอนยางเย็นให้ตรงสเปกรถ และอย่าลืมเช็ก ยางอะไหล่ ด้วย—ทริปถัดไปรู้ตัวอีกทีจะได้พร้อมเสมอ ✅
ดูแลต่อเนื่อง: วินัยเล็ก ๆ ที่ช่วยได้จริง
ทำเช็กลิสต์สั้น ๆ ทุกสัปดาห์: วัดลมยาง กวาดตาหาเศษแปลกปลอม ตั้งเตือน “หมุนเวียนยาง–ตั้งศูนย์/ถ่วงล้อ” ตามระยะ ตรงนี้ช่วยให้หน้ายางสึกสวย นิ่งเงียบขึ้นชัดเจน ทั้งถนนแห้งและช่วงฝนมาแบบไม่คาดคิดครับ 🙂
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NITTO ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nittotire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nittotire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nittotire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nittotire.in.th/news/list