ขับผ่านหลุม รอยต่อสะพาน เนินลูกระนาด หรือถนนเป็นคลื่นแล้วได้ยินเสียง “กึก!” “ตึ้บ!” ชัด ๆ รู้สึกกระแทกขึ้นห้องโดยสาร
อาการนี้อาจมาจาก ยาง–ล้อ หรือ ช่วงล่าง (รวมถึงชิ้นส่วนยึดโยง) ก็ได้ การแยกสาเหตุให้ถูกตั้งแต่แรกจะช่วย ประหยัดทั้งเงินและเวลา ในการซ่อม
🔍 สาเหตุยอดฮิต (ไล่จาก “ยาง–ล้อ” ไป “ช่วงล่าง”)
ด้าน “ยาง–ล้อ”
- แรงดันลมยางต่ำ/ไม่เท่ากัน → แก้มยาง “แบะ” กระแทกคมหลุมแรงขึ้น เสียงดังและเสี่ยงช้ำแก้มยาง
- ซีรีส์ยางเตี้ยเกินไป → โปรไฟล์บาง ซับแรงน้อย ขับในเมืองไทยถนนขรุขระจะกระแทกง่าย
- ล้อคด/ขอบล้อบิ่นจากการตกหลุม → เกิดเสียงกระแทก + สั่นที่พวงมาลัย
- นอตล้อหลวม/ขันแรงไม่เท่ากัน → เกิด “เคาะ” เวลาเปลี่ยนทิศ/ผ่านหลุม อันตรายมาก
- ออฟเซ็ต/สเปเซอร์ไม่พอดี (ไม่มีฮับเซ็นทริก) → ล้อวางไม่เต็มดุม มีระยะคลอน เกิดเสียงกึก ๆ
ด้าน “ช่วงล่าง”
- บุชปีกนก/บุชกันโคลงสึก → มีเสียง “กึก–กั่ก” เมื่อผ่านหลุมและเวลาเอียงตัว
- ลิงก์กันโคลงหลวม → เคาะสั้น ๆ บริเวณหน้า/หลังตามฝั่งที่เสีย
- โช้คอัพหมดแรง/ยางรองเบ้าโช้ค (Top Mount) เสื่อม → กระแทกที “ตึ้บ” ชัด รถเด้งสองจังหวะ
- ลูกหมากคันชัก–คันส่งหลวม → กึก ๆ ตอนกระแทกหรือเปลี่ยนเลน
- จานเบรก/คาลิเปอร์คลอน (พบไม่บ่อย) → กึกขณะเปลี่ยนทิศหรือเข้าเนิน
🧪 แยกสาเหตุแบบเร็ว ๆ (ทำเองได้ก่อนเข้าอู่)
- เช็กลมยางทั้ง 4 ล้อ เทียบสเปกสติ๊กเกอร์ประตู (ต่างกันเกิน 2–3 PSI = มีผลชัด)
- ตรวจยางด้วยตา: มีบวม/รอยบาด/เส้นเอ็นโผล่ไหม? ขอบล้อบิ่นหรือคดหรือไม่?
- เช็กนอตล้อ: ขันครบและแน่นเท่ากัน (ใช้ประแจทอร์กได้ยิ่งดี)
- ทดสอบช้า ๆ ขึ้น–ลงลูกระนาดทีละล้อ
- ถ้ากึกดังจาก “ด้านขวาหน้า” ทุกครั้ง → โฟกัสบุช/ลิงก์/โช้คฝั่งนั้น
- โยกล้อขณะยกแม่แรง (ปลอดภัยก่อน): 12–6 นาฬิกา และ 3–9 นาฬิกา
- มีระยะฟรี/เสียงคลอน → สงสัยลูกหมาก/ดุม
- ดูการยุบ–คืนตัวของรถ กดปล่อยที่มุมรถ: เด้งหลายจังหวะ = โช้คอ่อน
🛠 ลำดับการแก้ไขที่ “คุ้มและถูกจุด”
ขั้นที่ 1 – พื้นฐานที่สุด
- ตั้งแรงดันลมยางตามสเปก (รถบรรทุก/ทริปไกล เพิ่ม 2–3 PSI ได้)
- ปรับพฤติกรรมขับ: ผ่านรอยต่อ/หลุมให้ ผ่อนคันเร่ง–เข้าอย่างองศา ไม่ซัดตรง ๆ
ขั้นที่ 2 – ตรวจยาง–ล้อ
- ซ่อม/เปลี่ยนล้อคด ขอบบิ่น
- ยางบวม/แก้มช้ำ/มีรอยบาดลึก → เปลี่ยนทันที (ความปลอดภัยมาก่อน)
ขั้นที่ 3 – ช่วงล่าง
- เปลี่ยนบุชปีกนก/บุชกันโคลงที่ฉีก แข็ง หรือแตกลายงา
- เช็กและเปลี่ยนลิงก์กันโคลง/ลูกหมากหลวม
- ตรวจโช้คอัพและยางรองเบ้า (Top Mount) หากรั่ว/เด้งหลายจังหวะ
ขั้นที่ 4 – รีเซ็ตความนิ่งของรถ
- ถ่วงล้อ + ตั้งศูนย์ ครบสูตร หลังผ่านแรงกระแทกหนัก/เปลี่ยนอะไหล่ช่วงล่าง
🛞 เลือกยาง NITTO ให้เหมาะกับ “สภาพถนนไทย”
- วิ่งเมือง–ทางด่วน เน้นนุ่มนิ่ง → NT860
- โฟกัสคอมฟอร์ต ลดแรงสะเทือน เหมาะกับรถเก๋งที่ต้องเจอรอยต่อถนนบ่อย
- SUV/CUV ที่อยากได้ความสบาย–ความเงียบ → NT421Q
- หน้าสัมผัสมั่นคง รับน้ำหนักได้ดี เหมาะกับรถครอบครัว
- SUV/ล้อใหญ่ สไตล์สปอร์ต → NT420 SD
- โครงสร้างแน่น มั่นคงเวลาเจอหลุม/รอยต่อที่ความเร็วปานกลางถึงสูง
- วิ่งทางลูกรัง/ขรุขระเป็นกิจวัตร → Ridge Grappler (All-Terrain)
- บล็อกดอกแข็งแรง เกาะบนพื้นผิวหยาบดี ช่วยกันกระแทกมากกว่ายางถนน
- ลุยหนัก โคลน–หิน → Trail Grappler M/T / Mud Grappler
- เน้นแรงกรุยและความอึดทน (ทราบไว้ว่าเสียงและแรงสั่นจะมากกว่ายางถนนตามธรรมชาติ)
เคล็ดลับ: ไม่ว่ารุ่นไหน เลือกดัชนีบรรทุก (Load Index) ให้พอ กับการใช้งานจริง (โดยเฉพาะรถที่เสริมของแต่ง/บรรทุกบ่อย) จะช่วยลดอาการกระแทกและยืดอายุช่วงล่าง
✅ เช็กลิสต์ก่อนออกจากบ้าน (กัน “กึก!” ระหว่างวัน)
- ลมยางตรงสเปก + เท่ากันทุกล้อ
- ไม่มีบวม/บาด/เส้นเอ็นโผล่
- นอตล้อขันครบและแน่น
- ไม่มีเสียงหลวม ๆ เมื่อขึ้น–ลงเนินช้า ๆ
- ถ่วงล้อ–ตั้งศูนย์ล่าสุดไม่เกิน 10,000 กม.
สรุป
เสียง กึก/กระแทกเมื่อเจอหลุม แปลว่าระบบซับแรงกระแทกของรถคุณ “มีบางจุดไม่สมบูรณ์” จะเป็น ยาง–ล้อ หรือ ช่วงล่าง ก็แก้ได้ หากไล่ตรวจอย่างเป็นขั้นตอน เริ่มจากลมยางและการขับขี่ → ยาง–ล้อ → บุช–ลิงก์–โช้ค → ตั้งศูนย์ ครบสูตรแล้วรถจะกลับมานุ่ม–นิ่ง และลดความเสี่ยงความเสียหายระยะยาว
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NITTO ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nittotire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nittotire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nittotire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nittotire.in.th/news/list