ขับรถเดินทางไกลทีไร พอแวะพักแล้วสังเกตเห็นว่า
“ยางร้อนจี๋” จนจับแทบไม่ได้
หลายคนกังวลว่ายางจะเสื่อมเร็ว หรือร้อนจนยางระเบิดได้ไหม?
มาหาคำตอบชัด ๆ พร้อมวิธีดูแลป้องกันไม่ให้ยางร้อนเกินขีดจำกัดกันครับ
🔍 ทำไมยางถึงร้อนจัดตอนขับทางไกล?
- แรงเสียดทานสูง
→ ขับด้วยความเร็วต่อเนื่องเป็นเวลานาน ทำให้เกิดแรงเสียดสีสะสม = ยางร้อนขึ้นเรื่อย ๆ - แรงดันลมยางไม่เหมาะสม
→ ลมน้อยเกินไป ยางแบนรับแรงมากกว่าปกติ เกิดความร้อนสะสมเร็วขึ้น - น้ำหนักบรรทุกมากเกิน
→ ยางต้องรับน้ำหนักเกินพิกัด = เกิดความร้อนสูงผิดปกติ - ดอกยางตื้นหรือหมดสภาพ
→ รีดน้ำหรือกระจายความร้อนไม่ดี ยางจึงสะสมความร้อนเร็วกว่า
⚠️ อันตรายแค่ไหน?
- ยางร้อนจัดในระยะสั้น (ขับต่อเนื่อง 1–2 ชั่วโมง) → ปกติ
- แต่หากร้อนผิดปกติจนเกิน 60–70°C ต่อเนื่อง อาจทำให้โครงสร้างยางเสื่อมเร็วกว่าปกติ
- ความร้อนสะสมรุนแรง = เสี่ยงยางระเบิดสูงขึ้นเมื่อเจอแรงกระแทกหรือรอยฉีกเล็ก ๆ
🛠 วิธีป้องกันไม่ให้ยางร้อนเกินขีดจำกัด
- ตรวจลมยางก่อนเดินทางไกล ให้ตรงตามคู่มือรถ
- พักรถทุก 2–3 ชั่วโมง เพื่อลดความร้อนสะสม
- อย่าบรรทุกหนักเกินความสามารถของยาง (ดู Load Index ที่เหมาะสม)
- เปลี่ยนยางเมื่อดอกตื้นลงต่ำกว่า 3 มม. หรืออายุเกิน 5 ปี
🛞 NITTO รุ่นที่รองรับความร้อนได้ดี ขับทางไกลปลอดภัย
- NT421Q → โครงสร้างเสริมพิเศษ เหมาะกับ SUV หรือรถครอบครัวเดินทางบ่อย
- NT420 SD → ออกแบบรับน้ำหนักและความร้อนสูง เหมาะกับรถแต่งหรือ SUV ใส่ล้อใหญ่
- NT860 → ยางใช้งานทั่วไปที่ทนร้อนดี เหมาะกับรถเก๋งเดินทางประจำ
🧠 สรุป:
ขับรถทางไกลแล้ว "ยางร้อน" = ปกติถ้าไม่เกินมาตรฐาน
แต่ถ้าร้อนเกินจนผิดสังเกต ควรเช็กทั้งลมยาง น้ำหนักที่บรรทุก และสภาพยางให้ดี
การเลือกยางที่รองรับการใช้งานหนักและเดินทางไกลได้ดี จะช่วยลดความเสี่ยงจากยางร้อนได้อย่างมีประสิทธิภาพ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับผลิตภัณฑ์และบริการของ NITTO ได้ที่
🔎 ค้นหายางที่เหมาะกับรถคุณ: https://nittotire.in.th/products/1/list
🏪 รายชื่อศูนย์บริการทั่วประเทศ: https://nittotire.in.th/branches/list
🎉 โปรโมชั่นล่าสุด: https://nittotire.in.th/promotions/list
🗞️ ข่าวสารและกิจกรรม: https://nittotire.in.th/news/list