การขับรถลุยน้ำไม่ใช่เพียงแค่การขับรถธรรมดา มันคือประสบการณ์ที่ท้าทายและน่าตื่นเต้นที่ทำให้คุณเชื่อว่าทุกทางที่ตามมานั้นมีความสนุกสนานมากมาย ถึงแม้ว่าการลุยน้ำนั้นจะไม่ง่ายเนื่องจากมีความท้าทายในการเผชิญหน้ากับอุปสรรคของน้ำท่วมและอุปสรรคต่างๆ แต่ถ้าคุณมีเทคนิคที่ถูกต้อง ทุกสิ่งทุกอย่างจะกลายเป็นที่น่าทึ่งได้

ขึ้นชื่อว่า“น้ำ” เป็นอุปสรรคหนึ่งที่สามารถทำให้เกิดอันตรายได้ โดยเฉพาะหากว่า มีความลึก ความเชี่ยวของกระแส หรือลักษณะของเส้นทางที่อยู่ใต้น้ำ อย่าคิดว่าน้ำตื้นๆ จะไม่มีอันตราย เราต้องระมัดระวังมากกว่าปกติ ห้ามใช้ความเร็วโดยเด็ดขาดเพราะรถจะเสียการควบคุมได้ง่าย หรือน้ำอาจจะกระจายเต็มกระจกบดบังทัศนวิสัยหรือเข้าห้องเครื่อง หรือไม่ก็อาจจะกระเด็นไปถูกคนและรถคันอื่นได้

 

วิธีการปฏิบัติและเตรียมตัวก่อนลุยน้ำ 

การขับข้ามน้ำไม่ว่าจะเป็นน้ำท่วมจากอุทกภัยในพื้นที่ต่างๆ หรือน้ำในธรรมชาติก่อนอื่นเราควรทำการสำรวจความลึก พื้นผิวใต้น้ำ และกระแสน้ำทุกครั้งว่าเป็นอย่างไร มีโขดหิน หลุม อยู่บริเวณใดบ้าง ถ้าให้ปลอดภัยจริงๆ ต้องเดินลุยน้ำเท่านั้น ยกเว้นว่าเส้นทางที่เราคุ้นเคยและใช้อยู่เป็นประจำก็พอจะอนุโลมได้ ไม่ใช่ขับข้ามไปเพียงครึ่งเดียวแล้วรถติดอยู่กลางน้ำ จะเดินหน้าถอยหลังก็ยากลำบาก

 

การเตรียมตัวก่อนการลุยน้ำ ต้องทำอย่างไรบ้าง

ตรวจสอบระบบไฟฟ้า

ป้องกันน้ำท่วม: ให้ตรวจสอบที่มีโอกาสที่น้ำจะเข้ามาในรถ เช่น ที่รองฝาเครื่อง, ประตู, และหน้าต่าง. ใช้ซีลและสามารถใช้ซิลิโคนกันน้ำเพิ่มเติม

ระบบไฟ: ตรวจสอบระบบไฟฟ้าทั้งหมด แนะนำทำการทดสอบไฟหน้า, ไฟท้าย และไฟเบรก ในกรณีที่มีการลุยน้ำในระดับที่สูง ควรใช้ไฟ LED ที่มีความสามารถในการทนน้ำ

 

เตรียมท่อไอเสียและเบรก

ท่อไอเสีย: ยกขึ้นสูงหรือปิดมิดจากส่วนท่อไอเสียที่อาจจะถูกน้ำท่วม

ระบบเบรก: ตรวจสอบระบบเบรกและสายเบรกที่อาจถูกแช่น้ำ ทำการทดสอบเบรกให้แน่ใจว่าทำงานอย่างถูกต้อง

 

ตรวจสอบระบบหล่อเลี้ยง

ท่อส่งกำลัง: ตรวจสอบท่อส่งกำลังว่ามีการรั่วหรือเสียหายหรือไม่

ส่วนตัวของรถ: ยกขึ้นสูงหรือปิดมิดส่วนตัวที่อาจทำให้น้ำไหลเข้ามา

 

เตรียมยางรถ

ความดันลม: ตรวจสอบความดันลมในยางและปรับให้เหมาะสมตามสภาพที่จะขับรถ

รอยขอบยาง: ตรวจสอบรอยขอบยางทั้งหมดเพื่อแน่ใจว่าไม่มีรอยฉีดน้ำหรือที่มีรอยเสียงที่เกิดจากยางน้ำ

 

เตรียมอุปกรณ์อื่นๆ

รถเสบียง: มีเครื่องมือที่จำเป็นเพื่อช่วยในกรณีฉุกเฉิน เช่น ไฟฉุกเฉิน, เครื่องสกรู

สายไฟ: นำสายไฟพิเศษที่ทนน้ำมาด้วย


ของที่เตรียมไว้ในกรณีฉุกเฉิน

กระบะสำรอง: นำกระบะน้ำสะอาดมาใส่ในรถเพื่อใช้สำหรับกรณีฉุกเฉิน

ชุดเครื่องมือ: มีเครื่องมือพื้นฐานเช่น กระบอกลม, ไขควง, และที่สำคัญ

เสื้อกันน้ำ: เตรียมเสื้อกันน้ำเพื่อป้องกันการเปียก

การขับรถลุยน้ำนั้นจำเป็นต้องมีเทคนิคที่ถูกต้องเพื่อให้คุณสามารถเผชิญหน้ากับสภาพน้ำท่วมได้อย่างปลอดภัย แล้วเทคนิคเหล่านั้นมีอะไรบ้าง

 

ต้องมีความรู้เกี่ยวกับรถ

คุณมีความจำเป็นต้องทราบถึงข้อจำกัดและความสามารถของรถคุณ ทราบว่ารถของคุณสามารถทนได้ถึงระดับน้ำใดและมีระบบขับเคลื่อนสี่ล้อหรือไม่

 

ต้องมี การเตรียมตัว:

ก่อนลุยน้ำ ลองวัดความลึกของน้ำและปรับระดับของรถให้ถูกต้องตามความสามารถของรถ

ปรับลักษณะรถ: ปรับลักษณะรถให้สูงขึ้นเพื่อลดความเสี่ยงในการน้ำไหลเข้ามาในรถ

 

เตรียมระบบไฟฟ้า:

ปิดส่วนที่ทำให้น้ำเข้ามาได้: ปิดทุกรอยยิ้มหรือช่องทางที่น้ำสามารถเข้ามาได้ในรถ

ใช้ไฟ LED: ใช้ไฟ LED ที่ทนน้ำและสามารถแสดงแสงได้ดีในสภาพน้ำมืด

 

เทคนิคขับรถ:

ควบคุมความเร็ว: ควบคุมความเร็วของรถให้เหมาะสมเพื่อป้องกันน้ำที่จะสูงขึ้นมาที่รถ

ใช้ขับเคลื่อนสี่ล้อ: ในกรณีที่น้ำลึก ให้ใช้ระบบขับเคลื่อนสี่ล้อ (4WD) เพื่อเพิ่มการปรับตัวในน้ำ

 

การนำทาง:

ใช้ระบบนำทาง: หากมีระบบนำทางที่มีข้อมูลเส้นทางลุยน้ำ ให้ใช้เพื่อช่วยในการเลือกเส้นทางที่ปลอดภัย

 

ควบคุมเครื่องยนต์:

ควบคุมการหมุนรอบ: รักษาการหมุนรอบของเครื่องยนต์ในระดับที่เหมาะสมตลอดเส้นทาง

 

เมื่อพร้อมจะข้ามน้ำ

 

  1.       ให้ปลดคาดเข็มขัดนิรภัยออก ปิดแอร์ ลดกระจกหน้าลงให้สุด 
  2.       ปลดล็อกประตูทุกบาน ป้องกันการลัดวงจรของกระแสไฟฟ้า (กรณีที่มีระบบไฟฟ้า) ด้วยเหตุว่าในกรณีฉุกเฉินรถอาจจะจมน้ำถึงในระดับที่เป็นอันตราย ผู้ที่อยู่ในรถจะสามารถมุดออกมาได้อย่างทันท่วงที รวมทั้งสะดวกต่อผู้ที่เข้าไปช่วยเหลืออีกด้วย ขณะที่ขับข้ามเราต้องมีสติรอบคอบ หากมีอาการตื่นเต้นอยู่ก็ยังไม่ควรที่จะตัดสินใจขับลงน้ำ 
  3.       ขณะที่ขับข้ามเราต้องมีสติรอบคอบ หากมีอาการตื่นเต้นอยู่ก็ยังไม่ควรที่จะตัดสินใจขับลงน้ำ โดยเฉพาะในเส้นทางที่น้ำไหลเชี่ยว 
  4.       การเลือกใช้เกียร์ เกียร์ที่เหมาะในการขับข้ามน้ำที่สุด แน่นอนว่าถ้าเป็นรถขับเคลื่อน 4 ล้อ ควรใช้เกียร์ 1 (4L) เพราะสามารถใช้ WALKING SPEED ซึ่งมีความปลอดภัยมากกว่า เพราะเป็นเกียร์ที่ทำให้เครื่องยนต์ดับยาก โดยเฉพาะอย่างยิ่งในระดับน้ำที่ลึกพอสมควร ส่วนรถขับเคลื่อนสองล้อนั้น ควรใช้เกียร์ 1 เป็นหลัก แต่กระนั้นก็ถือว่าเสี่ยงอยู่พอสมควรหากกระแสน้ำมีความเชี่ยวและลึก ดังนั้นจึงต้องอาศัยดุลยพินิจของผู้ขับเป็นหลัก หากเสี่ยงเกินไปควรยกเลิกผ่านเส้นทางนั้น 
  5.       ขณะขับผ่านน้ำไม่ควรใช้รอบเครื่องยนต์สูงหรือใช้ความเร็ว รักษาความเร็วและรอบเครื่องยนต์ให้คงที่ ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์เพราะเครื่องยนต์อาจสะดุดหรืออาจทำให้เสียจังหวะจนทำให้เครื่องยนต์ดับได้ 
  6.       ตลอดเวลาที่อยู่ในน้ำ ผู้ขับจะต้องมีสติ และใช้ความระมัดระวังสูงสุด เพราะสภาพเส้นทางอาจเปลี่ยนแปลงได้ตลอดเวลา สาเหตุเพราะน้ำเป็นตัวแปรที่ไม่สามารถคาดเดาได้มากนัก อย่างไรก็ตาม ควรเลือกไลน์เดิมของรถที่ขับผ่านแล้ว และหลีกเลี่ยงการเปิดเส้นทางใหม่ที่ยังไม่ได้เดินสำรวจสภาพใต้น้ำ 
  7.       รักษาความเร็วและรอบเครื่องยนต์ให้คงที่ ไม่ควรเปลี่ยนเกียร์เพราะเครื่องยนต์อาจสะดุดหรือ อาจทำให้เสียจังหวะจนทำให้เครื่องยนต์ดับได้

***** สำหรับรถออฟโรดนั้น ค่อนข้างได้เปรียบรถประเภทอื่นๆ พอสมควร นอกจากความสูงที่มากกว่าแล้ว ยังมีเกียร์ SLOW ช่วยเพิ่มแรงบิดและทำให้เครื่องยนต์ดับยากอีกด้วยและนี่คือสิ่งสำคัญอีกหนึ่งสิ่ง คือการเลือก ประเภทยางรถยนต์ให้เหมาะกับการขับขี่

โดยส่วนมากแล้วนั้นการลุยน้ำจะนิยมใช้รถออฟโรด ยางรถยนต์ที่ใช้จึงเป็น ยางกระบะบรรทุกหนัก หรือ ยางกระบะ4ประตู

  1.       ถ้ากระแสน้ำไหลแรง การขับข้ามในแนวตัดตรง จะทำให้รถถูกน้ำดันไม่สามารถควบคุมรถได้ ควรขับตัดเป็นมุมทแยง 45 องศา กับกระแสน้ำ โดยขับไปครึ่งทางแล้วปล่อยให้กระแสน้ำพัดให้รถกลับสู่ทิศทางเดิมจนถึงฝั่งตรงข้าม 
  2.       หากขับตัดมากเกินไปกระแสน้ำจะพัดท้ายรถให้ไปตามน้ำ ทำให้ตัวรถเกิดการขวางลำ และไม่สามารถบังคับให้ไปในทิศทางที่ต้องการได้ หากขับตัดกระแสน้ำน้อยเกินไป จะทำให้ด้านข้างของตัวถังรถต้านน้ำอาจเกิดการลอยของตัวรถจนล้อไม่สัมผัสกับพื้นผิวใต้น้ำ ก็จะไม่สามารถควบคุมรถได้เช่นกัน

แหละนี่ก็เป็นเทคนิคบางส่วนที่จะทำให้การขับรถลุยน้ำของคุณมีประสิทธิภาพ สนุก และปลอดภัยมากยิ่งขึ้น และสำหรับใครที่คิดว่าจะซื้อยางรถกระบะยี่ห้อไหนดี หรือ ยางรถยนต์รุ่นไหนของเราจะเหมาะกับการขับขี่ประเภทนี้ Nitto Tires มี 3 รุ่นยอดฮิตสำหรับทางลุยมาแนะนำครับ

 

Nitto Ridge Grappler

NITTO Ridge Grappler เป็นยางที่ผสมผสานอย่างลงตัว ทั้งรูปลักษณ์และประสิทธิภาพ โดยให้แรงกรุยที่ดีบนถนนขรุขระ และประสิทธิภาพการยึดเกาะถนนที่ดีทั้งถนนแห้งและถนนเปียก
พร้อมเสียงรบกวนต่ำ ให้การขับขี่ที่สะดวกสบาย สามารถตอบสนองความต้องการของผู้ใช้้งานบนทางเรียบ รวมทั้งอายุการใช้งานที่ผู้ใช้พึงพอใจ

 

Nitto Trail Grappler M/T 

เป็นยางที่มีรูปลักษณ์แข็งแกร่งดุดันมีความสมดุลทั้งด้านสมรรถนะที่ดีเยี่ยมบนเส้นทางOff-road และประสิทธิภาพดีบนทางเรียบ ด้วยการออกแบบขนาดดอกยาง ความกว้างของร่องยางที่ได้สัดส่วนอย่าง

สมดุล(Balanced Void Ratio) และการจัดเรียงที่เหมาะสม(Variable Pitch Pattern)

 

Nitto Mud Grappler

การใช้งานในสภาพภูมิประเทศที่เป็น Off-Road Mud Grappler Extreme Terrain เป็นยางที่ให้ ประสิทธิภาพแรงกรุยเหนือกว่า ยางกลุ่ม Mud Terrain (M/T tire)โดยการออกแบบดอกยางที่พิเศษสุดด้วยร่องดอกยางแนวขวางที่กว้าง (Wide Lug Groove) และดอกยางที่มีลักษณะพิเศษเฉพาะตัวได้แก่Bone- Block Base,Nail Bit, Anti Side Slip Groove และ Deeper pattern บริเวณไหล่ยาง
นอกจากนี้ด้วยโครงสร้างที่แข็งแกร่งทั้งบริเวณหน้ายาง (High Strength Steel belt tread package)และ 3 Ply Polyester บริเวณแก้มยาง ช่วยเพิ่มความต้านทาน ต่อการถูกตำทะลุได้ดี
สำหรับการใช้งานบนถนนทางเรียบทั้งสภาพผิวถนนแห้ง และผิวถนนเปียกก็สามารถให้ประสิทธิภาพการยึดเกาะที่ดี

 

ยางรถยนต์ดี เทคนิคโดน แค่นี้ก็พร้อมลุยน้ำสบายๆ อย่าลืมดูแลความปลอดภัย ตรวจสอบรถ ตรวจสอบเส้นทาง ให้พร้อมกับสภาพถนน อยู่เสมอ เพื่อความสนุกที่มาพร้อมการเตรียมตัวที่ดีนะครับ ด้วยความห่วงใยจากใจ Nitto Tires


เคล็ดลับล่าสุด